Tuesday, February 27, 2007

Bijou Theatre

งานที่สอง เป็นงานฉายหนัง




โรงหนังของโรงเรียนผมชื่อ Bijou เป็นโรงหนังเล็กๆขนาดประมาณโรงหนัง house เห็นจะได้ format ที่ฉายก็ตั้งแต่ Film 35, Film 16, DVD, VHS, BetaCam, BetaMax, 3/4 inch tape จิปาถะ

ที่ได้ไปทำก็เพราะมีคนแนะนำ เขากำลังหาคนทำงานตำแหน่งนี้อยู่ เพราะรุ่นพี่ที่ทำหลายคนกำลังจะจบการศึกษา ต้องหาคนมีแทน และพอดีมีรุ่นพี่เห็นแวว (โห ปลื้ม แอบดีใจ) เขาก็เลยเรียกผมไปเทรน

จริงๆก็อยากทำงานที่นี่อยู่แล้ว เพราะรู้สึกว่าเป็นงานที่ "cool" ได้อยู่บนห้องฉายหนัง เหมือนอัลเฟรโดใน Cinema Paradiso เหมือนเสี่ยวกังใน Goodbye Dragon Inn รุ่นพี่ที่เทรนบอกว่า พวกเราคือผู้สร้าง magic ขั้นสุดท้ายของภาพยนตร์ก่อนถึงสายตาผู้ชม ฟังดูเก๋ไก๋ได้ใจ แต่ great power ก็มาพร้อมกับ great responsibility เวลาทำอะไรผิดพลาดนิดหน่อย เช่นเสียงมาก่อนภาพเล็กน้อย เปิดไฟผิด หรืออะไรกิ๊กก๊อกปาจิงโกะ ก็จะรู้สึกเหมือนโลกถล่ม ทั้งๆที่คนดูเขาก็ไม่สน ไม่แคร์อะไรหรอก




หลังจากเทรนกับรุ่นพี่ไปสองอาทิตย์ ก็ได้โซโล่เดี่ยว หนังเรื่องแรกที่ได้ฉายเองคือ "Seven Men From Now" เป็นหนังคาวบอย เพราะคลาสที่ผมต้องคุมประจำตอนนี้คือ คลาสชื่อ The Western โดยปกติอาจารย์ฉาย DVD ซึ่งโปรเจคไม่ยาก แต่ถ้าบางครั้งอาจารย์ฉายฟิล์ม 35 เราต้องให้รุ่นพี่ฉาย เพราะผมยังฉายไม่เป็น ตอนนี้เป็นแค่ film 16 รุ่นพี่บอกว่า เอาไว้ฉาย 16 ให้คล่องๆก่อน ค่อยสอน 35 เดี๋ยวสับสน

อยู่บนห้องฉาย สามารถได้ยินเสียงคนในโรงได้ เพราะโรงหนังติดไมค์ไว้ เวลาได้ยินเสียงคนดูหัวเราะกับหนังที่เราเพิ่งฉายไปที่ไร ก็สึกอิ่มใจทุกครั้ง ประหนึ่งเหมือนเราเป็นส่วนหนึ่งของทีมงาน เป็นหนึ่งในผู้สร้าง magic ของภาพยนตร์เรื่องนั้น

Sunday, February 25, 2007

Film Library




หลังจากใช้เวลาปรับตัวไปกับเทอมแรก เทอมสองนี้ ต้องทำงานหาเงินแล้ว แต่ก็ไม่ได้ไปเป็นเด็กเสริฟนอกมหาลัยที่ไหน เพราะผมเลือกที่จะทำงานที่คิดว่าน่าจะได้ประโยชน์ในทางตรงก็ทางอ้อมในแคมปัส

งานแรกที่ทำ คืองานในห้องสมุดหนัง มันไม่ได้ใหญ่มาก แต่ก็มีหนังอยู่เยอะพอตัว format ก็ตั้งแต่ FILM BETA VHS DVD ปกติเด็กยืมหนังออกไปไม่ได้ ต้องนั่งดูในห้องสมุด ปกติคนที่ยืมออกไปได้ต้องเป็นอาจารย์ หรือ Staff เท่านั้น แต่คนที่ทำงานที่นี่ ก็ได้สิทธ์พิเศษนี้ไปด้วย

หนังเรื่องใหม่ๆไม่เยอะมาก สู้ร้านแถวจตุจักรไม่ได้ โดยเฉพาะหนังจากแถบเอเชียทั้งหลาย แต่ที่นี่ก็จะมีหนัง แนวอาร์ตเก่าทดลองๆ ที่มันยังไม่ออกเป็นดีวีดีอยู่เยอะ ก็ถือว่าได้อย่างเสียอย่าง ช่วงนี้ถ้าเป็นไปได้ ก็เลยพยายามตามดูอะไรที่หาที่เมืองไทยไม่ได้ไปก่อน

ข้อดีอีกอย่างของการทำงานที่นี่ นอกจากได้เงิน ได้สิทธ์์แล้ว เรายังเหมือนมีคอลเลคชั่นส่วนตัวให้เรา "Browse" เพราะชาวบ้านคนอื่นต้องบราวซ์จากคอมพ์ เพราะเข้าไปในบริเวณชั้นไม่ได้ แต่เราไปเดินดูที่ชั้นเองได้เลย พอไม่รู้จะดูอะไรดี ก็ไปแว๊บๆซักพัก ก็ได้ไอเดียเอง อีกอย่างก็คือ พอมีคนมายืมโน้นยืมนี่ ก็ได้รู้ไปด้วยว่า มหาลัยมีเรื่องนี้ด้วยแหะ เพราะปกติก็ไม่รู้หรอก และเวลาหนังมาใหม่ เราก็ได้รู้ก่อนใคร แต่ถ้าหนังเรื่องไหน มหาลัยยังไม่มี เราก็ request ได้ แต่ได้ช้าได้เร็ว ก็ขึ้นกับงบประมาณ และความสำคัญของหนังนั้นๆ

Saturday, February 17, 2007

UBU



ป่านนี้คงรู้จักเว็บนี้กันหมดแล้วล่ะมั้งครับ เพราะทั้งคุณ AUN+ ในบอร์ดไบโอ หรือว่าคุณสถิตย์ จาก Thaiindie หรือคุณ เจ้าชายน้อย ก็ช่วยกันโปรโมทกันถ้วนหน้า แต่กระนั้น เราขอย้ำ ซ้ำเติมอีกรอบ เพราะเว็บนี้ ของเขาดีจริงๆ

http://www.ubu.com/film/

หนังอาวองการ์ดที่หาดูยากแต่ก่อน เดี๋ยวนี้หาดูได้ง่ายขึ้นจาก internet แม้จะไม่ได้ดูด้วยฟิล์ม แต่ก็ยังดีกว่าไม่ได้ดูใช่ป่าว

เราเคยพูดถึง Carolee Schneeman ที่ทำหนังเรื่อง Fuses แล้วก็ Ernie Gehr ที่เพิ่งกล่าวถึงไปไม่กี่วันก่อน
ถ้าเข้าไปใน ubu ก็มีหนังบางเรื่องให้ดูพอเป็นกระสัยไปได้ และที่เด็ดสุดคือ มันโหลดเก็บไว้ได้อีกต่างหาก

ถ้าอ่านชื่อศิลปินแต่ละคนแล้วไม่รู้จักเลย (เราก็รู้จักแค่บางคน) ก็อยากจะแนะนำให้ลองดูงานของกลุ่ม Fluxus ด้านล่างหน้าเว็บมีคำอธิบายโดยคร่าวๆว่ากลุ่ม Fluxus คืออะไร

Wednesday, February 14, 2007

รักนะ

ขอส่งความรักแก่ผู้อ่านทุกท่าน ด้วยคลิปจาก 2 หนังที่ดีที่สุดในโลก





รักกันมากๆนะครับ : )

Tuesday, February 06, 2007

The AMAZING Bruce Bickford!



ไม่ได้อัพมาระยะหนึ่งเพราะไม่มีแรงมาอัพบล็อคเลย ตกดึกแต่ละวันก็หมดแรงหนมปัง ว่าจะเล่าเรื่องหนังเจ๋งๆที่ได้ดู ก็นับไม่ถ้วนจนไม่รู้จะเริ่มตรงไหน จะเล่าถึง Visiting Artists ที่มาทุกคน ว่าจะเขียนตามคิว ก็ไล่ไม่ถูกอีก พอกหางหมูเป็นก้อนโต แต่วันนี้ไม่อาจปล่อยเลยได้จริงๆ เพราะคนนี้ blown me away!!!

เขาเป็น animator ชื่อ Bruce Bickford เมื่อวานได้ดูหนังเรื่อง Monster Road อันเป็นสารคดีเกี่ยวกับเขา พ่อเขา และงาน animation ของเขา ซึ่งขอบอกว่าดูแล้วบ้าไปเลย นอกจากตัวสารคดีเองจะน่าประทับใจแล้ว แต่ตัว Bruce และงานของ Bruce มันช่างมหัศจรรย์ในแบบที่พูดได้เต็มปากว่าไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อน ยิ่งพอเขามาโชว์งานของเขาวันนี้อีก ก็ยิ่งทนไม่ได้ต้องมาเล่าให้ฟัง



ถ้าจะให้อธิบายว่างานเขามันเป็นไง ก็น่าจะเรียกว่า เป็น animation แบบ stream of consciousness คือมันไหลไปเรื่อยๆ ไม่มีเรื่องราวชัดเจน clay-animation ของเขา ตัวละคร และฉาก ล้วนทำด้วยดิน มันสามารถหลอมไหลขยี้รวมกันแล้วกำเนิดเป็นสิ่งต่างๆ ในโลกพิสดาร โทนอารมณ์ก็มีทั้งอารมณ์ขัน และด้านมืด ชวนให้เรานึกถึง Jan Svankmajer ในแบบที่ถึกกว่า เพราะ Jan อย่างน้อยก็เวิร์คกับคาร์แรกเตอร์เป็นตัวๆไม่กี่ตัว แต่ Bruce นี่มีตัวละครเล็กๆ เป็นร้อยๆตัว เคลื่อนไหวไปพร้อมๆกันใน shot เดียวกัน



ที่ทึ่งคือเขาทำของเขาคนเดียว หมกมุ่นอยู่กับมัน อย่างหนังที่เราได้ดูวันนี้ เรื่องนึงเป็น Clay Animation ความยาวยี่สิบนาทีกว่า ไหลไปเรื่อยๆ ตัวละครมีเป็นร้อยๆผลุบโผล่ไปมาในโลกประหลาด เขาว่าเขาทำอยู่ห้าหกปี งานลายเส้นของเขาก็น่าทึ่งไม่แพ้กัน และยังคงความลื่นไหลไม่แพ้งาน stop-motion

เสียดายที่คนไม่ค่อยรู้จัก Bruce คงเพราะเขาเก็บตัว และไม่ได้มีความเป็น"ศิลปิน"ในแบบที่ชอบโปรโมทตัวเองเท่าไหร่ เขาก็เลยดังแค่ใต้ดิน แต่หลังจากมีสารคดีเกี่ยวกับเขาออกมา ก็มีคนรู้จักมากขึ้น



มีแค่งานชิ้นเดียวของเขาล่ะมั้งที่มีการทำเสียง และดนตรีสมบูรณ์ โดยมากเป็นหนังเงียบ เพราะเขาไม่มีเงินไปจ้างใคร วันนี้ในงาน screening ก็เลยให้พวกนักเรียน music มาช่วยกันเล่นดนตรีประกอบ animation สดๆ ซึ่งก็สนุกดี

ตอนนี้กำลังมีคนทำรวมงาน DVD ให้เขาอยู่ เราก็ลุ้นอยากให้สำเร็จออกมาไวๆ เพราะอยากเก็บงานมหัศจรรย์นี้ไว้ เป็นแรงกระตุ้น และเป็นตัวอย่าง ของคนที่จริงจังและทุ่มเทในงานของตัวเองรักอย่างแท้จริง ไม่ว่ามันจะยากลำบาก และดูเหมือนไม่มีทางเป็นไปได้ยังไงก็ตาม

จึงอยากแนะนำให้ผู้อ่านบล็อคนี้ทุกท่าน จับตามองหา DVD ของ Bruce เอาไว้ให้ดี และระหว่างนี้ถ้ามีใครเอา Monster Road ไปขายที่เมืองไทย ก็อยากให้หามาดูกันให้ได้

ระหว่างลองดูคลิปงานสั้นๆของเขาไปก่อน แต่เสียดายว่า clip นี้ต้องคูณด้วย 59 เท่า ถึงจะอธิบายความมหัศจรรย์ของมันจริงๆ