Sunday, October 15, 2006

ทัศนศึกษาเดินซากป่า




เมื่อวานเราไปทัศนศึกษาเดินป่ากัน นำโดยครู เจมส์ เบนนิ่ง ขับรถขึ้นลงเขากันจนจะอ้วกแตกประหนึ่งไปแม่ฮ่องสอน เป็นภูเขาทะเลทรายไกลสุดลูกหูลูกตา เพื่อจะไปดูป่าที่โดนไฟเผาจนมอด เหลือแต่ซากดำๆแห้งๆ ดูราวกับอยู่ในฉากหนังของ ทิม เบอร์ตัน เอามือไปแตะทีนี่มือดำเป็นตอตะโก ไปกับเด็กนักเรียนทำหนังก็จะเห็นแต่ละคนหยิบเอากล้องภาพนิ่งบ้าง ดิจิตอล โพรารอย กล้องวิดิโอบ้าง ถ่ายเก็บกันจ้าล่ะหวั่น กว่าจะมูฟไปได้แต่ละที่ ต้องหยุดกันนาน เพราะเด็กเก็บภาพยังไม่สะใจ สุดท้ายก็เลยกระจัดกระจายไปทั่วป่า แต่หากันไม่ยาก เพราะป่ามันโปร่งเหลือเกิน ไม่มีใบมาบัง

Wednesday, October 11, 2006

Cityzooms@Hannover: 5

Fri: Oct 05, 2006 : 24 คน 12 ทีม 12 เรื่อง 2 รอบ 1 คืนที่ยาวนาน

วันนี้ทุกคนกว่าจะตื่นก็ล่อเข้าไปเที่ยงไปบ่าย หลังจากเหนื่อยล้ากันมานาน ผมไปเดินเล่นพักผ่อนไปเรื่อย รอเวลานัดทุ่มนึง

7pm ทุกคนมารวมตัวกันเพื่อเดินทางไปสู่โรงภาพยนตร์ที่จะจัดฉายแสดงผลงานหนังสั้นทั้ง 12 เรื่องสู่สายตาสาธารณะชน และสายตาเพื่อนๆด้วยกัน ทีมงานบอกว่า คนที่นี่ให้ความสนใจกันมาก เรียกว่าขายบัตรได้เต็มโรง แถมยังต้องจัดฉายเพิ่มอีกหนึ่งรอบด้วยซ้ำ เพราะรอบเดียวจุไม่พอ น่าตื่นเต้นดีทีเดียว

ก่อนหนังฉายพิธีกรก็รายงานเป็นภาษาเยอรมันผสมอังกฤษ แล้วก็ฉายวิดิโอเบื้องหน้าเบื้องหลังโครงการ ซึ่งทีมงานก็เอาฟุตเทจที่ตามถ่ายพวกเรามาตลอดสามสี่วันนี่แหละมาตัด ดูแล้วก็สนุกสนาน เพลินๆดี แล้วก็ึถึงเวลาที่รอคอย พิธีการแนะนำแต่ละทีม และหนังแต่ละเรื่อง มีภาพเบื้องหลังการทำงานและแนะนำตัวเล็กน้อยก่อน จากนั้นก็ฉายหนังไปทีละเรื่อง คั้นด้วยการให้ผู้กำกับทั้งสองคน ออกไปสัมภาษณ์หลังจากหนังของตัวเองฉายจบ สลับกันไปเรื่อยๆแบบนี้







ได้ดูงานของทีมอื่นๆก็ต้องบอกว่า รู้สึกประทับใจทีเดียว ทุกเรื่องอยู่ในระดับน่าสนใจทั้งหมด แต่ถ้าให้ผมเลือกที่ผมชอบมากที่สุด 3 เรื่อง ไม่นับหนังตัวเอง ก็ขอเลือก ทีมของ Yannik เรื่อง "Creatures" เป็นหนังเน้นวิช่วลมากๆ แบบ mtv แต่ดูสนุกโคตรๆ เสียงก็ทำได้ดีมาก ครีเอตมาก หนังสั้นไม่ถึง 3 นาที แต่ผมอยากดูอีกซัก 15 รอบ , ทีมจากสาวจีน หนังชื่ออะไรจำไม่ได้ แต่เป็นหนังที่นิ่งที่สุดในบรรดาทุกเรื่อง แต่ถ่ายภาพสวย และมีอารมณ์ขันในความไม่มีอะไร ประทับใจมาก (แต่บางคนไม่ชอบหนังเรื่องนี้เลย) และ "red" ทีมจาก oki สาวญี่ปุ่น หนังเก๋ดี และยังคงความประหลาดและมีเอกลักษณ์แบบเธอได้เป็นอย่างดี (ในเรื่องนี้ เขาให้เพื่อนทุกคนช่วยกันเขียน red เป็นภาษาตัวเองกันด้วย เพือทำเป็นภาพตอนต้นเรื่อง ในหนังก็จะมีคำว่า "แดง" อยู่ น่ารักมั้ยล่ะ)

ถ้าให้พูดถึงหนังทีมตัวเอง ก็ต้องบอกว่าไม่อายใคร (คิดเอาเอง) และเอาเข้าจริง (ซึ่งมีคนบอก) หนังกลุ่มผมน่าจะตรงคอนเซ็ปของโครงการนี้มากที่สุดด้วยซ้ำ เพราะในขณะที่หนังกลุ่มอื่นๆค่อนข้างจะเก๋ไก๋ในเชิงภาพยนตร์ จนอาจจะดูสนุกในเชิงเทคนิก แต่หนังกลุ่มผมค่อนข้างจะจับภาพเมืองและชีวิตของคนใน hannover ได้มากที่สุด (เข้าข้างตัวเอง ว่างั้นเหอะ)

ฉายจบทุกคนก็ happy ชื่นมื่นกันถ้วนหน้า เรียกว่า ปิดงานได้อย่างงดงาม เพื่อนๆทุกคนก็มีความสุข เพราะหมดหน้าที่ เป็นอิสระ พวกเราก็ปาร์ตี้กันจนเกือบเช้า ทั้งดื่ม ทั้ง dance เพลงที่ dance ก็เพลงที่รู้จักๆกันทั้งนั้นแหละ สรุปไม่ว่าจะจากไทย จากอียิปต์ จากอาเจนติน่า จากอินเดีย จากเยอรมัน จากไหนจากไหน ก็คุยเรื่องหนัง ฟังเพลง ไม่ได้ต่างกัันเลย ศิลปะมันไม่มีพรมแดนจริงๆ ที่ผมประทับใจมากที่สุดคือ ทุกคนในที่นี้ ไม่มีใครพูดภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลักเลยซักคน ขนาดคุณ ido fluk จากนิวยอร์ค จริงๆแล้วยังเป็นคนอิสราเอลเลย (แต่ไปเรียนที่อเมริกา) นั่นหมายความว่า แต่ละคนพูดได้ 2 ภาษาเป็นอย่างน้อย แต่กระนั้นทุกคนก็พยายามสื่อสารกันด้วยภาษาอังกฤษ และเราทุกคนก็เป็นเพื่อนกันได้

Sat-Sun: Oct 06-07, 2006 : งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา

วันนี้แต่ละคนก็ทยอยกลับประเทศตัวเอง แม้เมื่อคืนจะนอนกันเช้า แต่พวกเราก็แหกตาตื่นกันขึ้นมา เพราะอยากจะมาส่งเพื่อนๆ พวกเราอ่อยอิ่งคุยกันจนนาทีสุดท้าย ก่อนที่เพื่อนๆจากลาจากกันไปทีละคน สองคน เป็นภาพที่มีความสุข เศร้า และประทับใจในคราวเดียวกัน oki ถึงกับร้องไห้เมื่อต้องจากลา เกือบทุกคน กลับบ้านกันวันเสาร์ ส่วนผมกลับรุ่งเช้าวันอาทิตย์







ไม่น่าเชื่อว่า เวลาสี่ห้าวันที่พวกเราได้มาเจอกัน ทำงานอยู่ร่วมกัน จะทำให้รู้สึกอาลัยได้แบบนี้ แต่พวกเราก็สัญญาว่าจะติดต่อกันไปไม่ขาดหาย และก็อย่างที่ yannik พูดเอาไว้ "We have to make good movies to see each other again." แล้วผมจะพยายามทำหนังดีๆ เพื่อนจะได้พบกับทุกคนใหม่ครับ

Cityzooms@Hannover: 4

Thu: Oct 04, 2006 ตัดต่อ 4 ชั่วโมงให้เหลือ 3 นาที

Work Station ตัดต่อของกลุ่มผมอยู่ตรงบันไดพอดี ตอนแรกรู้สึกว่าคงวุ่นวายเวลาคนขึ้นลง แต่เอาเข้าจริงก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร สมาธิก็จดจ่ออยู่กับการตัดหนังตัวเอง ไม่ได้ไปสนใจว่าใครจะเดินขึ้น เดินลง จะหยุดมอง หรือจะทำอะไรทั้งสั้น

สิ่งที่ลำบากที่สุดในการทำ post ของหนังเรื่องนี้ก็คือ การ capture ทุกอย่างลงคอมพ์นี่แหละ เพราะฟุตเทจที่ผมกับ nika ถ่ายรวมกันมา ก็ประมาณ 4 ม้วน สำหรับหนังสั้น 3 นาที เรียกกว่าเป็นอะไรที่ขี่ช้างจับตั๊กแตน พวกเรายังคิดกันเลยว่า เอาฟุตเทจพวกนี้ไปทำหนังได้อีก 10 เรื่อง ผมเริ่มเอาเทปลงตั้งแต่เมื่อวานคืน กว่าจะเอาลงหมด ก็ล่อมาถึงวันนี้ตอนประมาณบ่ายสาม เพราะฉะนั้นกว่าจะเริ่มตัดก็บ่ายสามกว่าๆ มีเวลาถึงพรุ่งนี้ตอนเที่ยง แต่คิดว่าอยากให้เสร็จภายในคืนนี้ ซึ่งหมายถึงรุ่งเช้าของวันพรุ่งนี้นั่นเอง

ตอนตัดก็สนุกดี ปัญหาไม่ค่อยมีอะไรนอกจากในเชิงเทคนิก ซึ่งไม่คุ้นเคยกับเครื่อง mac และโปรแกรม final cut pro เอาเสียเลย (ปกติใช้แต่ premiere) แต่โชคดีที่กลุ่มอื่นเขาเซียนๆกัน ก็เลยได้เพื่อนๆมาช่วยสอนโน้นสอนนี่ให้ ส่วนอุปกรณ์ทางเทศกาลเขาจัดสรรให้เป็นอย่างดี ทั้งคอมพิวเตอร์ เมาส์ ฮาร์ดดิสต์ สายโน้นสายนี่ต่างๆ อยากได้อะไรก็ไปบอกเขา เขาก็จะพยายามหามาให้ ไม่มีปัญหาอะไรเลย เรียกว่าประทับใจมาก








อย่างที่บอก ฟุตเยอะ ก็มีให้เลือกเยอะ พอมีให้เลือกเยอะก็ปวดหัว คือจะเอาฟุตน่าสนใจมากมายขนาดนั้นมายัดลงในหนังสั้น 3 นาทีได้อย่างไร สุดท้ายต้องยอมรับเลยว่า การตัดต่อหนังเรื่องนี้เป็น happening art จริงๆ คืออารมณ์ ณ ตอนนั้น คิดถึงฟุตไหนขึ้นมา แล้วเอามันมาลองตัดดู ฟุตนั้นก็ได้อยู่ในหนังในที่สุด เพราะเวลามีจำกัด จะมัวมาแต่เลือกโน้นเลือกนี่ไม่จบสิ้นเป็นไปไม่ได้ เรียกว่า ฟุตเทจไหนทำบุญมาดี ก็ได้เกิดบนจอ จะว่าไปก็เสียดายหลายฟุตมาก ที่รักสุดๆและเคยมั่นใจว่าได้อยู่ในหนังแน่ๆ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้อยู่ เพราะมันไม่เหมาะกับเวลา และไม่เหมาะกับสถานการณ์อารมณ์ที่ฟุตเทจอื่นๆเขาประกอบกันอยู่แล้ว โดยเฉพาะกับหนังเรื่องนี้ ที่แต่ละฟุตเทจมันต้องส่่งเสริม และส่งต่อ มีลูกเล่นต่อกัน แอบเสียดาย แต่จะทำไรได้ คือใจอยากให้หนังยาวซักครึ่งชั่วโมง แต่ของจริงหายไป 27 นาที ยิ่งสำหรับผม ซึ่งปกติมักจะทำหนังช้า เรียกว่าช้าแล้ว ก็อยากให้ช้าเข้าไปอีก พอมาตัดหนังเรื่องนี้ เหมือนได้ลองของใหม่ ซึ่งไม่ค่อยได้เคยทำมาก่อน

ดราฟแรกตัดออกมา 6 นาที อยากจะบ้าตาย รู้สึกว่ามันสั้นจะแย่อยู่แล้ว ยังยาวตั้ง 6 นาที ก็เลยต้องลุยกันใหม่ ผมกับ nika มุมมองคล้ายๆกัน ก็เริ่มมีการเห็นไม่ตรงกันบ้าง ผมอยากได้อันนี้ เธออยากได้อันนั้น ผมอยากให้เร็วขึ้น เธออยากให้ช้าลง ผมอยากให้ช้าลง เธออยากให้เร็วขึ้น สื่อสารกันบางทีก็งงๆ เพราะภาษาอังกฤษเธอก็ไม่ค่อยจะแข็งแรง แถมง่วงก็ง่วง สุดท้ายก็ลุยๆกันไปนั่นแหละ จนสำเร็จได้มา 3 นาที

ตอนแรกผมตั้งชื่อหนังว่า A ant B boy C cat D dog แต่ nika บอกว่าเธอไม่เข้าใจ สงสัยมันคงมีแต่ตำราเรียนภาษาอังกฤษเมืองไทยล่ะมั้ง ตอนแรกผมพยายามยัดชื่อหนังลงไปให้ได้ ด้วยลูกเล่นเก๋ไก๋ แต่ปรากฎว่า คือเอาชื่อยาวขนาดนี้ ก็คงกินเวลาไป 1 นาที สุดท้ายเลยตัดใจให้หนังชื่อ ABC สั้นๆแต่ลงตัวแทน

ตัดภาพเสร็จ ก็มาลุยเรื่องเสียงกันต่อ nika ไม่ไหวขอตัวไปนอน ส่วนผมไม่รู้สึกง่วงอะไร แต่อยากทำให้เสร็จ ก็เลยอาสาทำต่อจนจบ เล่นกับเสียงแบบโน้นแบบนี้สนุกดี สุดท้ายกว่าจะเสร็จสมบูรณ์ export งานเรียบร้อย ก็ล่อเข้าไปตี 4

ตี 4 แต่ยังมีเพื่อนๆอีกหลายกลุ่มทำงานกันอยู่ บางกลุ่มก็เสร็จไปตั้งนานแล้ว บางกลุ่มก็ยังไม่เสร็จ ได้เห็นกลุ่มอื่นทำงานแล้วก็รู้สึกตื่นเต้น หลายชิ้่นเจ๋งมาก ดูแล้วไม่น่าเชื่อว่าทำกันในเวลาสองสามวัน เสียดายที่เวลามีให้้น้อย เลยไม่ได้ไปสุงสิงดูคนอื่นเขาทำงานนัก ไม่งั้นคงจะได้ไปสูบความรู้ ได้มุมมองใหม่ๆมากกว่านี้อีก

นับว่าเป็นวันที่ยาวนาน กว่าจะได้นอนก็เกือบ 6 โมงเช้า แต่ก็อิ่มใจที่มีคนที่ฉันรัก ไม่ใช่.... แต่ก็อิ่มใจที่ทำงานจนสำเร็จ ได้หนังน่ารักๆมาเรื่องนึง แม้มันจะสั้นไปหน่อย (ก็เขากำหนดมาอย่างงี้) ผมชอบมันนะ