Bijou Theatre
งานที่สอง เป็นงานฉายหนัง
โรงหนังของโรงเรียนผมชื่อ Bijou เป็นโรงหนังเล็กๆขนาดประมาณโรงหนัง house เห็นจะได้ format ที่ฉายก็ตั้งแต่ Film 35, Film 16, DVD, VHS, BetaCam, BetaMax, 3/4 inch tape จิปาถะ
ที่ได้ไปทำก็เพราะมีคนแนะนำ เขากำลังหาคนทำงานตำแหน่งนี้อยู่ เพราะรุ่นพี่ที่ทำหลายคนกำลังจะจบการศึกษา ต้องหาคนมีแทน และพอดีมีรุ่นพี่เห็นแวว (โห ปลื้ม แอบดีใจ) เขาก็เลยเรียกผมไปเทรน
จริงๆก็อยากทำงานที่นี่อยู่แล้ว เพราะรู้สึกว่าเป็นงานที่ "cool" ได้อยู่บนห้องฉายหนัง เหมือนอัลเฟรโดใน Cinema Paradiso เหมือนเสี่ยวกังใน Goodbye Dragon Inn รุ่นพี่ที่เทรนบอกว่า พวกเราคือผู้สร้าง magic ขั้นสุดท้ายของภาพยนตร์ก่อนถึงสายตาผู้ชม ฟังดูเก๋ไก๋ได้ใจ แต่ great power ก็มาพร้อมกับ great responsibility เวลาทำอะไรผิดพลาดนิดหน่อย เช่นเสียงมาก่อนภาพเล็กน้อย เปิดไฟผิด หรืออะไรกิ๊กก๊อกปาจิงโกะ ก็จะรู้สึกเหมือนโลกถล่ม ทั้งๆที่คนดูเขาก็ไม่สน ไม่แคร์อะไรหรอก
หลังจากเทรนกับรุ่นพี่ไปสองอาทิตย์ ก็ได้โซโล่เดี่ยว หนังเรื่องแรกที่ได้ฉายเองคือ "Seven Men From Now" เป็นหนังคาวบอย เพราะคลาสที่ผมต้องคุมประจำตอนนี้คือ คลาสชื่อ The Western โดยปกติอาจารย์ฉาย DVD ซึ่งโปรเจคไม่ยาก แต่ถ้าบางครั้งอาจารย์ฉายฟิล์ม 35 เราต้องให้รุ่นพี่ฉาย เพราะผมยังฉายไม่เป็น ตอนนี้เป็นแค่ film 16 รุ่นพี่บอกว่า เอาไว้ฉาย 16 ให้คล่องๆก่อน ค่อยสอน 35 เดี๋ยวสับสน
อยู่บนห้องฉาย สามารถได้ยินเสียงคนในโรงได้ เพราะโรงหนังติดไมค์ไว้ เวลาได้ยินเสียงคนดูหัวเราะกับหนังที่เราเพิ่งฉายไปที่ไร ก็สึกอิ่มใจทุกครั้ง ประหนึ่งเหมือนเราเป็นส่วนหนึ่งของทีมงาน เป็นหนึ่งในผู้สร้าง magic ของภาพยนตร์เรื่องนั้น
โรงหนังของโรงเรียนผมชื่อ Bijou เป็นโรงหนังเล็กๆขนาดประมาณโรงหนัง house เห็นจะได้ format ที่ฉายก็ตั้งแต่ Film 35, Film 16, DVD, VHS, BetaCam, BetaMax, 3/4 inch tape จิปาถะ
ที่ได้ไปทำก็เพราะมีคนแนะนำ เขากำลังหาคนทำงานตำแหน่งนี้อยู่ เพราะรุ่นพี่ที่ทำหลายคนกำลังจะจบการศึกษา ต้องหาคนมีแทน และพอดีมีรุ่นพี่เห็นแวว (โห ปลื้ม แอบดีใจ) เขาก็เลยเรียกผมไปเทรน
จริงๆก็อยากทำงานที่นี่อยู่แล้ว เพราะรู้สึกว่าเป็นงานที่ "cool" ได้อยู่บนห้องฉายหนัง เหมือนอัลเฟรโดใน Cinema Paradiso เหมือนเสี่ยวกังใน Goodbye Dragon Inn รุ่นพี่ที่เทรนบอกว่า พวกเราคือผู้สร้าง magic ขั้นสุดท้ายของภาพยนตร์ก่อนถึงสายตาผู้ชม ฟังดูเก๋ไก๋ได้ใจ แต่ great power ก็มาพร้อมกับ great responsibility เวลาทำอะไรผิดพลาดนิดหน่อย เช่นเสียงมาก่อนภาพเล็กน้อย เปิดไฟผิด หรืออะไรกิ๊กก๊อกปาจิงโกะ ก็จะรู้สึกเหมือนโลกถล่ม ทั้งๆที่คนดูเขาก็ไม่สน ไม่แคร์อะไรหรอก
หลังจากเทรนกับรุ่นพี่ไปสองอาทิตย์ ก็ได้โซโล่เดี่ยว หนังเรื่องแรกที่ได้ฉายเองคือ "Seven Men From Now" เป็นหนังคาวบอย เพราะคลาสที่ผมต้องคุมประจำตอนนี้คือ คลาสชื่อ The Western โดยปกติอาจารย์ฉาย DVD ซึ่งโปรเจคไม่ยาก แต่ถ้าบางครั้งอาจารย์ฉายฟิล์ม 35 เราต้องให้รุ่นพี่ฉาย เพราะผมยังฉายไม่เป็น ตอนนี้เป็นแค่ film 16 รุ่นพี่บอกว่า เอาไว้ฉาย 16 ให้คล่องๆก่อน ค่อยสอน 35 เดี๋ยวสับสน
อยู่บนห้องฉาย สามารถได้ยินเสียงคนในโรงได้ เพราะโรงหนังติดไมค์ไว้ เวลาได้ยินเสียงคนดูหัวเราะกับหนังที่เราเพิ่งฉายไปที่ไร ก็สึกอิ่มใจทุกครั้ง ประหนึ่งเหมือนเราเป็นส่วนหนึ่งของทีมงาน เป็นหนึ่งในผู้สร้าง magic ของภาพยนตร์เรื่องนั้น