กิจกรรมจิปาถะ
WED 30 AUG 2006
ผมนอนไม่ค่อยหลับ อาจเพราะนอนมาเยอะแล้วบนเครื่องบิน ประมาณ หกโมงเช้า ก็เลยออกไปเดินเล่น นักเขียนให้กุญแจเรียบร้อยแล้ว เดินไปอีกทางจากเมื่อคืน อากาศเย็นสบายดีมาก บ้านเมือง สวน ถนน ก็เรียบร้อยสวยงามน่ารัก สมเป็น nice neighborhood อย่างที่นักเขียนว่า ผมเดินไปไกลเหมือนกัน แล้วก็เดินกลับอีกฝากถนน ถ่ายรูปไปเรื่อย แล้วก็ทักทายคนที่เดินผ่าน สังเกตเห็นว่ามีคนจูงหมามาเดินมากมาย ซึ่งเป็นภาพที่ไม่ได้คิดไว้ นึกว่าจะมีแต่คนอังกฤษที่ทำแบบนี้ซะอีก
กลับมาล้างหน้าล้างตา อาบน้ำอาบท่าซักพัก นักเขียนก็พาออกไปเที่ยวเมือง
นั่งรถเมล์ไปกินอาหารเช้าย่าน UCLA town พยายามหาอะไรถูกๆ ลงเอยที่ชุดอาหารเช้าประมาณ 4 เหรียญ มีไส้กรอก ขนมปัง แล้วก็ไข่กวน แล้วก็กลีบส้มบางๆ ก็อร่อยดี มองวิวเห็นฝรั่งเด็กนักศึกษา แล้วก็เด็กเอเชียหลายคน โดยเฉลี่ยทุกคนดูดีหมด เห็นแล้วก็รู้สึกดี
อาหารอเมริกันมื้อแรก
จากนั้นก็ไปเดินทัวร์มหาลัย UCLA มันใหญ่มากๆ แล้วก็จัดแลนด์สเคปอะไรได้สวยงาม เข้าห้องสมุดไปขี้หน่อย ก็เลยได้เห็นว่าห้องน้ำนี่ช่องข้างประตูนี่กว้างจริงๆอย่างที่พี่บิ๊ก เคยบอก พื้นประตูห้องน้ำก็ขึ้นมาซะสูง อีกอย่างคือ ห้องน้ำเงียบมาก จะขี้จะตดนี่เสียงดังเป็นเก้าเท่าเลยทีเดียว
รูโหว่ระหว่างประตูขนาดครึ่งนิ้ว พบได้ทั่วไปตามห้องน้ำ
ประตูอยู่ห่างจากพื้นร่วมฟุต ให้ความรู้สึกโล่งสบาย
นักเขียนพาไปดูรูปปั้นหมีประจำมหาลัย เขาบอกว่าถ้าลูบตรงเท้าหลังมัน จะโชคดี ไปเดินในร้านขายของ และที่เด็ดคือ โรงยิมมหาลัย โอ้ มันใหญ่มากๆๆๆๆ ใหญ่ไฮโซอลังการกว่าที่คิด มันคือโรงงานออกกำลังกายดีๆนี่เอง มันเป็นที่รวมเอากิจกรรมทุกอย่างเข้าไว้ด้วยกัน เป็นเมืองออกกำลังกายดีๆนี่เอง
จากนั้นนักเขียนก็พาขึ้นไปยังห้องทำงาน ห้องทำ reserch ของเขาบนบนดาดฟ้า อาคารนี้ดู nerd สุดๆ วิชาการมากๆ แต่ไม่วายที่บริเวณทำงานนักเขียน ก็ยังเต็มไปด้วยหนังสือนิยายและภาพศิลปะติดเต็มไปหมด มันคือความขัดแย้งที่ลงตัวอย่างหนึ่ง เสมือนตัวนักเขียนเองไม่มีผิด
จากนั้นพวกเราก็พากันไปกินข้าวร้านอาหารญี่ปุ่น ซึ่งมีน้องโอ๋ผู้หญิงทำงานอยู่ น้องโอ๋เป็นรุ่นน้องที่เตรียม บอกว่าคุ้นหน้าผม น้องโอ๋ก็น่ารักอัธยาศัยดีมาก อาหารก็เยอะมาก กินจนแน่นท้องไปหมด แถมกินก็ไม่หมด แล้วก็พากันไปดูหนังเรื่อง Little Miss Sunshine ผมไม่วายต้องขี้ก่อนดู เพราะปวดท้อง มันแน่นท้องจริงๆ เรียกว่าวันนี้ขี้เบิ้ล โรงหนังโรงนี้ ไกด์ทัวร์จำเป็นบอกว่าได้รางวัลตกแต่งยอดเยี่ยม ซึ่งความเห็นผม มันตกแต่งได้เอิกเกริกมาก โดยเฉพาะม่านหน้าโรง สีสันแดงแรดจนนึกว่าเปิดม่านมาจะเป็นโรงงิ้ว
แล้วก็ไปยังร้านวิดิโอหนังอาร์ต ซึ่งก็มีอาร์ตและหนังประหลาดๆได้ใจจริงๆ แต่ค่าเช่าแพงมาก เรื่องละกว่า 5 เหรียญ จากนั้นก็ไปเดินที่ Third Street prominade กันต่อ เป็นย่านช้อปปิ้งหรู ปิดถนนสวยงามดี รู้สึกว่ามีแต่คนหรูๆดูดี ของก็แพง ชอบเดินนะ แต่คงไม่มีเงินไปซื้ออะไร อดคิดไมได้ว่า บ้านเมืองที่นี้เหมือนไม่ใช่ของจริง มันเหมือนเมืองใน Truman show ที่เป็นเมืองปลอมๆและคนเดินถนนก็เป็นนักแสดงมาแสดงให้เราดูเท่านั้นเอง ทุกอย่างมันดูสวยสะอาดอย่างกับฉาก นี่ขนาดที่อเมริกานะ ยังดูเกินจริงขนาดนี้ ถ้าเป็นยุโรปจะขนาดไหน แต่พอคิดดูอีกที ยุโรปมันดูเกินจริงแบบสวยงามอลังการจนบ้าไปเลย แต่ที่อเมริกา มันดูสวยแบบหลอกๆมากกว่า แต่ก็ชอบนะ มันก็แสดงถึงความเป็นอเมริกันดี
จากนั้นก็แวะไปที่ Beach ซึ่งมีสวนสนุกอยู่ด้วย และหาดที่ไกลสุดลูกหูลูกตา น้ำแรงมาก พยายามไปเล่นไอ้โหนห่วงๆที่เห็นหนุ่มล่ำๆบนชายหาดเขาเล่นกัน โหนตัวไปมาราวกับทาร์ซาน ไอ้เรา โหนไปได้สองอัน ก็ร่วง เพราะไม่มีแรง เผอิญไม่ล่ำเหมือนคนอื่นเขา ต้องเจียมตัว
ห่วงที่พยายามฝืนสังขารไปโหนเล่น
ขึ้นรถเมล์ ง่วงมากๆ เลยหลับไป น้ำลายหยดอีกต่างหาก ภาณุปลุกให้ลง แล้วพวกเราก็เดินไปที่บ้านของพี่นก เป็น nice neighborhood เหมือนกัน
ที่นี่เด็กไทยเขารวมตัวกัน ช่วยเหลือกันเป็นอย่างดี พ่อนักเขียนเรารู้จักคนไทยเยอะ ผมก็เลยได้ผลบุญไปด้วย วันนี้พี่นก หนึ่งในเด็กไทยที่นี่ นัดน้องๆมากินข้าวด้วยกัน
ตัวอย่างอาหาร เสียดายไม่มีรูปปลาสุดอร่อย
ห้องพี่นกสีขาว สวยงามน่ารักสุดๆ อย่างกับหลุดมาจากแคตตาลอก ดูเหมือนห้องในญี่ปุ่นเก๋ๆ พี่นกทำกับข้าวให้พวกเรากิน อร่อยระดับมืออาชีพ โดยเฉพาะปลา บรรยากาศก็อบอุ่นราวกับเป็นครอบครัว มีพี่นก พี่หนึ่ง น้องโอ๋ น้องแวนด้า น้องอิง นักเขียน และผม (เสียดาย ไม่ได้ถ่ายรูปไว้) น้องอิงเอาหนัง animation สอนภาษา ที่เธอทำเอง "ฉัน กับ ซิ้ม" มาให้ดูด้วย น่ารักมาก เก่ง กินเสร็จผมกับนักเขียนก็ช่วยกันล้างจาน นั่งคุยเล่นกันต่ออีกนิดหน่อย น้องอิงก็ขับรถพามาส่งบ้าน ถึงบ้านก็หมดแรง วันนี้มันลองเดย์ เก็บทุกเม็ดจริงๆ
ผมนอนไม่ค่อยหลับ อาจเพราะนอนมาเยอะแล้วบนเครื่องบิน ประมาณ หกโมงเช้า ก็เลยออกไปเดินเล่น นักเขียนให้กุญแจเรียบร้อยแล้ว เดินไปอีกทางจากเมื่อคืน อากาศเย็นสบายดีมาก บ้านเมือง สวน ถนน ก็เรียบร้อยสวยงามน่ารัก สมเป็น nice neighborhood อย่างที่นักเขียนว่า ผมเดินไปไกลเหมือนกัน แล้วก็เดินกลับอีกฝากถนน ถ่ายรูปไปเรื่อย แล้วก็ทักทายคนที่เดินผ่าน สังเกตเห็นว่ามีคนจูงหมามาเดินมากมาย ซึ่งเป็นภาพที่ไม่ได้คิดไว้ นึกว่าจะมีแต่คนอังกฤษที่ทำแบบนี้ซะอีก
กลับมาล้างหน้าล้างตา อาบน้ำอาบท่าซักพัก นักเขียนก็พาออกไปเที่ยวเมือง
นั่งรถเมล์ไปกินอาหารเช้าย่าน UCLA town พยายามหาอะไรถูกๆ ลงเอยที่ชุดอาหารเช้าประมาณ 4 เหรียญ มีไส้กรอก ขนมปัง แล้วก็ไข่กวน แล้วก็กลีบส้มบางๆ ก็อร่อยดี มองวิวเห็นฝรั่งเด็กนักศึกษา แล้วก็เด็กเอเชียหลายคน โดยเฉลี่ยทุกคนดูดีหมด เห็นแล้วก็รู้สึกดี
อาหารอเมริกันมื้อแรก
จากนั้นก็ไปเดินทัวร์มหาลัย UCLA มันใหญ่มากๆ แล้วก็จัดแลนด์สเคปอะไรได้สวยงาม เข้าห้องสมุดไปขี้หน่อย ก็เลยได้เห็นว่าห้องน้ำนี่ช่องข้างประตูนี่กว้างจริงๆอย่างที่พี่บิ๊ก เคยบอก พื้นประตูห้องน้ำก็ขึ้นมาซะสูง อีกอย่างคือ ห้องน้ำเงียบมาก จะขี้จะตดนี่เสียงดังเป็นเก้าเท่าเลยทีเดียว
รูโหว่ระหว่างประตูขนาดครึ่งนิ้ว พบได้ทั่วไปตามห้องน้ำ
ประตูอยู่ห่างจากพื้นร่วมฟุต ให้ความรู้สึกโล่งสบาย
นักเขียนพาไปดูรูปปั้นหมีประจำมหาลัย เขาบอกว่าถ้าลูบตรงเท้าหลังมัน จะโชคดี ไปเดินในร้านขายของ และที่เด็ดคือ โรงยิมมหาลัย โอ้ มันใหญ่มากๆๆๆๆ ใหญ่ไฮโซอลังการกว่าที่คิด มันคือโรงงานออกกำลังกายดีๆนี่เอง มันเป็นที่รวมเอากิจกรรมทุกอย่างเข้าไว้ด้วยกัน เป็นเมืองออกกำลังกายดีๆนี่เอง
จากนั้นนักเขียนก็พาขึ้นไปยังห้องทำงาน ห้องทำ reserch ของเขาบนบนดาดฟ้า อาคารนี้ดู nerd สุดๆ วิชาการมากๆ แต่ไม่วายที่บริเวณทำงานนักเขียน ก็ยังเต็มไปด้วยหนังสือนิยายและภาพศิลปะติดเต็มไปหมด มันคือความขัดแย้งที่ลงตัวอย่างหนึ่ง เสมือนตัวนักเขียนเองไม่มีผิด
จากนั้นพวกเราก็พากันไปกินข้าวร้านอาหารญี่ปุ่น ซึ่งมีน้องโอ๋ผู้หญิงทำงานอยู่ น้องโอ๋เป็นรุ่นน้องที่เตรียม บอกว่าคุ้นหน้าผม น้องโอ๋ก็น่ารักอัธยาศัยดีมาก อาหารก็เยอะมาก กินจนแน่นท้องไปหมด แถมกินก็ไม่หมด แล้วก็พากันไปดูหนังเรื่อง Little Miss Sunshine ผมไม่วายต้องขี้ก่อนดู เพราะปวดท้อง มันแน่นท้องจริงๆ เรียกว่าวันนี้ขี้เบิ้ล โรงหนังโรงนี้ ไกด์ทัวร์จำเป็นบอกว่าได้รางวัลตกแต่งยอดเยี่ยม ซึ่งความเห็นผม มันตกแต่งได้เอิกเกริกมาก โดยเฉพาะม่านหน้าโรง สีสันแดงแรดจนนึกว่าเปิดม่านมาจะเป็นโรงงิ้ว
แล้วก็ไปยังร้านวิดิโอหนังอาร์ต ซึ่งก็มีอาร์ตและหนังประหลาดๆได้ใจจริงๆ แต่ค่าเช่าแพงมาก เรื่องละกว่า 5 เหรียญ จากนั้นก็ไปเดินที่ Third Street prominade กันต่อ เป็นย่านช้อปปิ้งหรู ปิดถนนสวยงามดี รู้สึกว่ามีแต่คนหรูๆดูดี ของก็แพง ชอบเดินนะ แต่คงไม่มีเงินไปซื้ออะไร อดคิดไมได้ว่า บ้านเมืองที่นี้เหมือนไม่ใช่ของจริง มันเหมือนเมืองใน Truman show ที่เป็นเมืองปลอมๆและคนเดินถนนก็เป็นนักแสดงมาแสดงให้เราดูเท่านั้นเอง ทุกอย่างมันดูสวยสะอาดอย่างกับฉาก นี่ขนาดที่อเมริกานะ ยังดูเกินจริงขนาดนี้ ถ้าเป็นยุโรปจะขนาดไหน แต่พอคิดดูอีกที ยุโรปมันดูเกินจริงแบบสวยงามอลังการจนบ้าไปเลย แต่ที่อเมริกา มันดูสวยแบบหลอกๆมากกว่า แต่ก็ชอบนะ มันก็แสดงถึงความเป็นอเมริกันดี
จากนั้นก็แวะไปที่ Beach ซึ่งมีสวนสนุกอยู่ด้วย และหาดที่ไกลสุดลูกหูลูกตา น้ำแรงมาก พยายามไปเล่นไอ้โหนห่วงๆที่เห็นหนุ่มล่ำๆบนชายหาดเขาเล่นกัน โหนตัวไปมาราวกับทาร์ซาน ไอ้เรา โหนไปได้สองอัน ก็ร่วง เพราะไม่มีแรง เผอิญไม่ล่ำเหมือนคนอื่นเขา ต้องเจียมตัว
ห่วงที่พยายามฝืนสังขารไปโหนเล่น
ขึ้นรถเมล์ ง่วงมากๆ เลยหลับไป น้ำลายหยดอีกต่างหาก ภาณุปลุกให้ลง แล้วพวกเราก็เดินไปที่บ้านของพี่นก เป็น nice neighborhood เหมือนกัน
ที่นี่เด็กไทยเขารวมตัวกัน ช่วยเหลือกันเป็นอย่างดี พ่อนักเขียนเรารู้จักคนไทยเยอะ ผมก็เลยได้ผลบุญไปด้วย วันนี้พี่นก หนึ่งในเด็กไทยที่นี่ นัดน้องๆมากินข้าวด้วยกัน
ตัวอย่างอาหาร เสียดายไม่มีรูปปลาสุดอร่อย
ห้องพี่นกสีขาว สวยงามน่ารักสุดๆ อย่างกับหลุดมาจากแคตตาลอก ดูเหมือนห้องในญี่ปุ่นเก๋ๆ พี่นกทำกับข้าวให้พวกเรากิน อร่อยระดับมืออาชีพ โดยเฉพาะปลา บรรยากาศก็อบอุ่นราวกับเป็นครอบครัว มีพี่นก พี่หนึ่ง น้องโอ๋ น้องแวนด้า น้องอิง นักเขียน และผม (เสียดาย ไม่ได้ถ่ายรูปไว้) น้องอิงเอาหนัง animation สอนภาษา ที่เธอทำเอง "ฉัน กับ ซิ้ม" มาให้ดูด้วย น่ารักมาก เก่ง กินเสร็จผมกับนักเขียนก็ช่วยกันล้างจาน นั่งคุยเล่นกันต่ออีกนิดหน่อย น้องอิงก็ขับรถพามาส่งบ้าน ถึงบ้านก็หมดแรง วันนี้มันลองเดย์ เก็บทุกเม็ดจริงๆ
0 Comments:
Post a Comment
<< Home